ผู้จัดการทีมฟุตบอล

ราฟาเอล เบนิเตซ (Rafael Benítez)

หากจะถามถึงผู้จัดการทีมที่เหล่าเดอะค็อป หรือกองเชียร์ทีมฟุตบอลหงส์แดง ลิเวอร์พูล รักมากที่สุด แน่นอนเหลือเกินว่า หนึ่งในนั้น ย่อมต้องมีชื่อของ ราฟาเอล เบนิเตซ (Rafael Benítez) อย่างแน่นอน ทั้งนี้ก็เพราะ เบนิเตซนั้น เป็นกุนซือ ที่พาทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จ และโชว์ผลงานได้อย่างน่าภาคภูมิใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผงาดคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ที่เป็นถ้วยใหญ่สุดของยุโรปมาครองได้สำเร็จ ด้วยชัยชนะสุดคลาสสิคเหนือยอดทีมแห่งอิตาลี อย่าง เอซี มิลาน เมื่อปี 2005

เบนิเตซ หรือที่หลายๆคนเรียกกันว่า ราฟา นั้นมีชื่อเต็มๆว่า ราฟาเอล ราฟา เบนิเตซ เมาเดส เกิดเมื่อวันที่ 16 เมษายน ปี 1960 ที่ มาดริด ประเทศสเปน ส่วนสูง 176 เซนติเมตร หรือประมาณ 5 ฟุต 9 นิ้ว เคยเป็นนักฟุตบอลในตำแหน่งกองหลัง ให้กับทีมสโมสรต่างๆดังนี้ครับ ปี 1974-1981 ทีมคาสทิลล่า ลงเล่นไปทั้งหมด 247 นัด ยิงไป 7 ประตู ปี 1981-1985 ทีมพลาร่า ลงเล่นไป 124 นัด ยิงไป 8 ประตู ปี 1985-1986 ทีมลินาเลซ ลงเล่นไป 34 นัด ยิงไป 7 ประตู นับรวมจำนวนนัดที่ลงเล่นให้ทีมต่างๆได้ทั้งหมด 405 นัด และยิงประตูรวมทั้งหมด 22 ประตู ส่วนประวัติการเป็นผู้จัดการทีมนั้นก็เริ่มจากการเป็นผู้จัดการทีม:

– รีลบายาโดลิด เมื่อปี 1995-1996
– ทีมเตเนริเฟ่ เมื่อปี 1996-1997
– ทีม โอซาซูน่า เมื่อปี 1997-1999
– ทีมเอ็กซ์เซียโน เมื่อปี 2000-2001
– ทีมบาเลนเซียเมื่อปี 2001-2004
– ทีมลิเวอร์พูล เมื่อปี2004-2010
– ทีมอินเตอร์ มิลาน เมื่อปี 2010-2011
– ทีมเชลซี เมื่อปี 2012-2013

ส่วนในปัจจุบัน ราฟาเอล เบนิเตซนั้น คุมทีมฟุตบอลนาโปลีอยู่ครับ แล้วก็สำหรับในเรื่องของความสำเร็จหลักๆของราฟานั้นก็จะอยู่ในช่วงของการคุมทีมบาเลนเซีย กับการคุมทีมลิเวอร์พูลครับ คือเรียกได้ว่าช่วงระยะเวลาดังกล่าวนั้นเป็นช่วงที่ทำให้ชื่อเสียงของราฟาดังกระฉ่อน จนว่ากันว่า ราฟานั้นเป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดของยุโรปเลยละครับ โดยการันตีได้จากรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปีในปี 2002 และ 2005 ของสองสถาบันครับ

โยอาคิม เลิฟ (Joachim Low)

สำหรับบทความนี้ผมก็ได้หยิบยกเอาประวัติเล็กๆ น้อยๆ ของอีกหนึ่งกุนซือมากฝีมือ มากล่าวถึงกันให้ได้ทราบกันอีกแล้วครับ โดยบทความนี้จะขอเอาใจคอบอลเยอรมันกันบ้างนะครับ โยอาคิม เลิฟ (Joachim Low) กุนซือทีมอินทรีเหล็ก เยอรมันเกิดเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ปี 1960 ที่เชอเนา ประเทศเยอรมัน เคยเล่นฟุตบอลในตำแหน่งกองกลางมาก่อน โดยทีมที่โยอาคิม เลิฟเคยเล่นให้นั้นมีทีมดังๆมากมายหลายทีมครับ ไม่ว่าจะเป็นทีมสตุ๊ดการ์ท ไฟบวร์ก แฟรงค์เฟิร์ต

ซึ่งสถิติการเล่นให้ทีมดังๆเหล่านั้นก็มีดังนี้ครับ ไฟบวร์ก ปี 1978-1980 ลงเล่น 71 นัด ยิง 8 ประตู และกลับมาเล่นให้ไฟร์บวร์กอีกครั้ง ในปี 1985-1989 ลงเล่น 116 นัด ยิง 28 ประตู, สตุ๊ดการ์ท ปี 1980-1981 ลงเล่น 4 นัด, แฟรงค์เฟิร์ต ปี 1981-1982 ลงเล่น 24 นัด ยิง 5 ประตู ครับ ส่วนในนามทีมชาติ โยอาคิม เลิฟ ติดทีมชาติเยอรมันชุดยู 21 ปี เมื่อปี 1979-1980 โดยลงเล่นไป 4 นัด ยิงประตูไม่ได้ แล้วก็ประวัติการคุมทีมพอคร่าวๆของเลิฟ ก็มีดังนี้ครับ ปี 1996-1998 คุมทีมสตุ๊ดการ์ท ปี 1998-1999 คุมทีมเฟเนบาห์เช่ ปี 2004-2006 เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมชาติเยอรมัน และตั้งแต่ปี 2006 ก้าวขึ้นมาคุมทีมชาติเยอรมันแบบเต็มตัว ทีนี้มาดูกันในส่วนของสไตล์การทำทีมของเลิฟกันบ้างครับ คือเท่าที่สังเกตได้จากการระบบ และสไตล์การเล่นของทีมชาติเยอรมัน ต้องบอกเลยว่า เลิฟมีสไตล์การทำทีมที่อาศัยทีมเวิร์คของนักเตะทั้งทีม ประกอบกับอาศัยวินัยในการเล่นของนักเตะแต่ละคน

ซึ่งสไตล์การทำทีมแบบนี้ถือได้ว่าน่าชื่นชมมากๆเลยละครับ เพราะมันเป็นอะไรที่ทำให้ทีมชาติเยอรมันเป็นทีมที่เล่นได้แข็งแกร่ง และเสมอต้นเสมอปลายแทบจะทุกนัดของการแข่งขัน อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่ทำให้นักเตะทีมชาติเยอรมันทุกคนมีวินัยมากขึ้น และเป็นนักเตะที่เข้าใจเกมฟุตบอลที่เป็นเกมกีฬาที่เล่นกันเป็นทีมมากขึ้น รวมไปถึงทำให้นักเตะทีมชาติเยอรมันรู้จักการประสานงานที่ดีระหว่างเพื่อนร่วมทีมมากขึ้นอีกด้วยครับ

รอย ฮอดจ์สัน (Roy Hodgson)

รอย ฮอดจ์สัน (Roy Hodgson) ผู้จัดการทีมสิงโตคำราม อังกฤษคนปัจจุบัน เกิดเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ปี 1947 ที่ประเทศอังกฤษ เคยเป็นอดีตนักฟุตบอลในตำแหน่งกองหลังของหลายๆสโมสร ดังที่จะกล่าวต่อไปนี้ครับ ปี 1965-1966 ทีมคริสตัน พาเลซ ปี 1966-1969 ทีมทอนบริจ ปี 1969-1971 ทีมเกรฟเซนท์&นอร์ทฟริท ปี 1971-1972 ทีมเมดส์สโตน ยูไนเต็ด ปี 1972-1973 ทีมอรัชฟอร์ด ทาวน์ ปี 1973-1974 ทีมบีเรีย พาร์ค และปี 1974-1976 ปิดอาชีพค้าแข้งกับทีมคราชเฮาตอน แอธแลนติก

ส่วนในระดับผู้จัดการทีมนั้น รอย ฮอดจ์สัน เคยเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลมากมายหลายทีมครับ ในบทความนี้เลยจะขอหยิบยกประวัติการเป็นผู้จัดการทีมของ ฮอดจ์สันมากล่าวเพียงบางส่วนเท่านั้นนะครับ ก็มีดังนี้ครับ ปี 1992-1995 คุมทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ปี 1995-1997 คุมทีมอินเตอร์ มิลาน ปี 1997-1998 คุมทีมแบล็กเบิร์น โรเวอร์ส ปี 2000-2001 คุมทีมโคปาฮาเกน ปี 2006-2007 คุมทีมชาติฟินแลนด์ ปี 2007-2010 คุมทีมฟูแล่ม ปี 2010-2011 คุมทีมลิเวอร์พูล ปี 2011-2012 คุมทีมเวสต์บรอมวิชอัลเบี้ยน หลังจากนั้นก็ต่อด้วยการคุมทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่จนถึงปัจจุบันครับ ส่วนความสำเร็จ หรือผลงานหลักๆที่น่าประทับใจระหว่างการคุมทีมต่างๆของรอย ฮอดจ์สัน ก็มีดังนี้ครับ การพาทีมอินเตอร์ มิลาน เข้าสู่รอบรองชนะเลิศฟุตบอลยูฟ่าคัพ 1 ครั้ง เมื่อปี 1997, พาโคปาฮาเกนคว้าแชมป์ดันนิช ซุปเปอร์ลีก 1 ครั้ง เมื่อฤดูกาล 2000-2001 และแชมป์ดันนิชซุปเปอร์คัพ 1 ครั้งในปี 2001, พาทีมฟูแล่มเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลยูฟ่ายูโรป้าลีก 1 ครั้ง เมื่อปี 2010 ครับ

ก็ถือได้ว่าเป็นผลงานที่อาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่ หรือหรูหราสักเท่าไหร่นะครับ สำหรับการคุมทีมที่ผ่านมา ของ รอย ฮอดจ์สัน แต่อย่างน้อยที่สุด ผลงานดังกล่าวเหล่านั้น ก็เป็นสิ่งพิสูจน์ความสามารถของเขาได้ดีพอที่จะทำให้เขาได้รับความไว้วางใจให้มารับตำแหน่งหน้าที่กุนซือทีมชาติอังกฤษ ดังเช่นปัจจุบันนี้ครับ แล้วก็สำหรับความสำเร็จ หรือรางวัลโดยส่วนตัวของรอย ฮอดจ์สันนั้น ก็มีหนึ่งรางวัลคือ รางวัลผู้จัดการทีมดีเด่น แอลเอ็มแอล แมนเนเจอร์ ออฟ เดอะ เยียร์ ในปี 2010 ครับ

พอล แลมเบิร์ต (Paul Lambert)

พอล คริสโตเฟอร์ แลมเบิร์ต (Paul Christopher Lambert) คือชื่อเต็มๆของ พอล แลมเบิร์ต ผู้จัดการทีมฝีมือชั้นยอด แห่งทีม แอสตัน วิลล่า แลมเบิร์ตนั้นเกิดเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ปี 1969 ที่ประเทศสก็อตแลนด์ ส่วนสูง 180 เซนติเมตร หรือประมาณ 5 ฟุต 11 นิ้ว เคยเป็นอดีตนักฟุตบอลตำแหน่งกองกลางให้แก่สโมสรต่างๆ ดังนี้ ปี 1986-1993 ทีมเอสที มิเรน ได้ลงเล่น 227 นัด ยิงไป 14 ประตู ปี 1993-1996 ทีมมาเทอร์เวล ได้ลงเล่น 103 นัด ยิงไป 6 ประตู ปี 1996-1997 ทีมดอดท์มุนด์ ได้ลงเล่น 44 นัด ยิงไป 1 ประตู

ปี 1997-2005 ทีมเซลติก ได้ลงเล่น 193 นัด ยิงไป 14 ประตู ซึ่งในช่วงที่เขาเล่นให้กับเซลติกที่แหละครับ เป็นช่วงที่ว่ากันว่าท็อปฟอร์ม และดีที่สุดในการค้าแข้ง เพราะชื่อเสียงของเขาขณะที่เล่นให้เซลติกนั้นโด่งดังไปทั่วเลยครับ ส่วนเมื่อสิ้นสุดการค้าแข้งที่เซลติกแล้ว แลมเบิร์ตก็มาปิดท้ายการค้าแข้งของตนเองกับทีมลิวิงสตอน เมื่อปี 2005-2006 โดยได้ลงเล่นไปเพียง 7 นัด ทำประตูไม่ได้ครับ นับรวมจำนวนนัดที่แลมเบิร์ตเล่นฟุตบอลอาชีพได้ทั้งหมด 573 นัด และยิงไป 35 ประตู ครับ แล้วก็สำหรับประวัติกับทีมชาติ ก็มีดังนี้ครับ ติดทีมชาติสก็อตแลนด์ชุดยู 21 เมื่อปี 1990 ได้ลงเล่นเพียง 1 นัด ทำประตูไม่ได้ ติดทีมชาติสก็อตแลนด์ชุดใหญ่เมื่อปี 1995-2003 โดยได้ลงเล่นไป 40 นัด ยิงไป 1 ประตู ทีนี้มาดูกันในส่วนของประวัติการคุมทีมกันบ้างครับ แลมเบิร์ตเริ่มคุมทีมลิวิงสตอน (ทีมสุดท้ายที่แลมเบิร์ตค้าแข้งด้วย) เมื่อปี 2005-2006

ต่อด้วยทีมวายคอมเบ วันเดอร์เรอส์ เมื่อปี 2006-2008 ทีมโคเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2008-2009 ทีมนอริช ซิตี้ เมื่อปี 2009-2012 และตั้งแต่ปี 2012 จนถึงปัจจุบันย้ายมาคุมทีม แอสตัน วิลล่า ครับ ส่วนความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจระหว่างการคุมทีมของแลมเบิร์ตนั้น ก็มีอยู่หลักๆสองความสำเร็จ อย่างแรกคือการพานอริช ซิตี้คว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 เมื่อฤดูกาล 2009-2010 อย่างที่สองก็คือการพานอริชคว้าแชมป์ลีกแชมป์เปี้ยนชิพ ต่อทันทีในฤดูกาล 2010-2011

อาร์แซน เวนเกอร์ (Arsene Wenger)

อาร์แซน เวนเกอร์ (Arsene Wenger) ถือเป็นอีกหนึ่งผู้จัดการทีม ที่ประสบความความสำเร็จอย่างยาวนาน แม้ว่า ทีมอาร์เซน่อลของเขาในยุคหลังๆอาจจะไม่ได้ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ ใดๆมากมาย ดังเช่น ทีมดังทีมอื่นๆ ก็ตามทีครับ แต่ด้วยฟอร์มการเล่น ประกอบกับมาตรฐานการจบอันดับในลีก ที่อาร์เซน่อลทำได้ คือ จบด้วยอันดับต้นๆของตางรางพร้อมกับการได้ตั๋วไปเล่นฟุตบอลถ้วยยุโรปเป็นประจำ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า เวนเกอร์เป็นผู้นำความสำเร็จมาให้อาร์เซน่อลในยุคหลังอย่างแท้จริงครับ

อาร์แซน เวนเกอร์ เกิดเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ปี 1949 ที่ประเทศฝรั่งเศส ส่วนสูง 193 เซนติเมตร หรือประมาณ 6 ฟุต 4 นิ้ว เคยเป็นนักฟุตบอลในตำแหน่งสวีปเปอร์ แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เหมือนกับการเป็นผู้จัดการทีมครับ เวนเกอร์ นั้นเริ่มงานคุมทีม กับทีมน็องซี ในปี 1984-1987 จากนั้นก็ย้ายมาคุมทีมโมนาโก ในปี 1987-1994 ต่อด้วยทีม นะโงะยะแกรมปัสเอต ทีมสโมสรในญี่ปุ่น เมื่อปี 1955-1956 และตั้งแต่ปี 1956 จนถึงปัจุบัน คุมทีมอาร์เซน่อล ทีมดังแห่งอังกฤษ ครับ โดยตลอดระยะเวลาการคุมทีมอาร์เซน่อล เวนเกอร์พาทีมประสบความสำเร็จ ดังนี้ครับ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย ในปี 1998 , 2002 และ 2004 คว้าแชมป์เอฟเอคัพ 4 สมัย ในปี 1998 , 2002 , 2003 และ 2005 คว้าแชมป์คอมมิวนิตี้ชิลด์ 4 สมัย ในปี 1998 , 1999 ,2002 และ 2004 ส่วนความสำเร็จที่รองๆลงมาหน่อย ก็มี ดังนี้ครับ การพาอาร์เซน่อลจบอันดับสองของตารางพรีเมียร์ หรือเรียกง่ายๆว่า รองแชมป์ 5 สมัย ครับ รองแชมป์เอฟเอคัพ 1 สมัย

รองแชมป์ลีกคัพ 2 สมัย รองแชมป์คอมมิวนิตี้ชิลด์ 2 สมัย รองแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนนส์ลีก 1 สมัย และ รองแชมป์ยูฟ่าคัพ 1 สมัย ครับ แล้วก็สำหรับความสำเร็จโดยส่วนตัวของเวนเกอร์นั้น ก็มีมากมายเช่นกันครับ โดยจะขอยกตัวอย่างมาพอคราวๆละกันนะครับ เช่น การได้รางวัลโค้ชกีฬายอดเยี่ยมสำนักข่าวบีบีซี เมื่อปี 2002 และ 2004 การได้รางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปี จากสมาคมฟุตบอลอังกฤษ 3 สมัย การได้รางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยม (ประจำเดือน) จากสมาคมฟุตบอลอังกฤษ 10 ครั้ง เป็นต้น ครับ